เช้าวันที่ 24 ตุลาคม ค.ศ. 2003 ซ่งเหม่ยหลิง-อดีตภริยาประธานาธิบดีเจียงไคเช็กแห่งไต้หวัน ได้จบชีวิตลงอย่างสงบ ณ บ้านพักในนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา สิริอายุ 106 ปี การจากไปของซ่งเหม่ยหลิง ถือเป็นการปิดฉาก "ราชวงศ์ตระกูลซ่ง" ลงอย่างสมบูรณ์ แน่นอนในประวัติศาสตร์จีนยุคใกล้ ไม่มี "ราชวงศ์กระกูลซ่ง" ทว่าความยิ่งใหญ่ทางเศรษฐกิจและอิทธิพลทางการเมืองของตระกูลซ่งที่มีต่อประเทศจีนยุคใกล้และยุคปัจจุบัน เป็นสิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ อิทธิพลและความยิ่งใหญ่นี้เอง ที่ทำให้ชาวจีนถึงกับขนานนามตระกูลซ่งว่า "ราชวงศ์ตระกูลซ่ง" ความยิ่งใหญ่ของตระกูลซ่ง ย่อมแยกไม่ออกจากตัวบุคคล ซึ่งประกอบด้วย ซ่งเย่าหนู หรือ ชาลี ซ่ง-ผู้บิดา ซ่งอ้ายหลิง บุตรีคนโต ผู้แต่งงานกับนายธนาคารมหาเศรษฐี-ข่งเสียงซี ซ่งชิงหลิง บุตรีคนรอง ภริยาดร.ซุนยัตเซ็น ผู้ได้รับการยกย่องว่าเป็นบิดาแห่งประเทศจีน ซ่งเหม่ยหลิง บุตรีคนเล็ก ภริยาประธานธิบดีเจียงไคเช็ก ซ่งจื่อเหวิน บุตรชายผู้เป็นอภิมหาเศรษฐี แม้ว่าบุคคลผู้เจิดจรัสเหล่านี้ได้จากโลกนี้ไปหมดแล้ว ทว่าตำนานชีวิตอันมลังเมลืองของพวกเขาก็ยังเป็นสิ่งที่ชนรุ่นหลังใคร่รู้ใคร่ศึกษา โดยเฉพาะเรื่องราวของสามสาวพี่น้องตระกูลซ่ง ชาวจีนมีคำพูดคำหนึ่งสรุปบทบาทของสามสาวแซ่ซ่งไว้ว่า "คนหนึ่งรักเงิน คนหนึ่งรักชาติ คนหนึ่งรักอำนาจ" ซ่งอ้ายหลิงหาเงินเก่ง มีกลเม็ดเด็ดพรายในการแสวงหาทรัพย์ ความเขี้ยวของเธอขึ้นชื่อลือชาเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก แต่คนส่วนใหญ่มักไม่ทราบว่าเธอเป็นตัวจักรสำคัญผู้กุมชะตากรรมของคนสกุลซ่ง มีคนพูดว่า "เป็นผู้ชาย เธอคงขึ้นมาปกครองประเทศจีนแล้ว" ซ่งชิงหลิง-สาวแกร่งผู้มีอุดมการณ์อันแน่วแน่ เธอแต่งงานกับ ดร.ซุนยัตเซ็น ด้วยวัยที่แตกต่างกันราวพ่อกับลูก ใครๆ ก็คัดค้าน มีแต่เธอกับดร.ซุนยัตเซ็นเท่านั้นที่รู้ดีว่าอุบัติเหตุรักต่างวัยที่เกิดขึ้นนั้น โรแมนติกและลึกซึ้งหวานชื่นเพียงใด มีคนปรามดร.ซุนว่าแต่งงานกับเด็กจะอายุสั้น ดร.ซุนประกาศก้องทันทีว่าได้แต่งงานกับซ่งชิงหลิน ต่อให้อายุสั้นลงสัก 10 ปี ก็ยินดี และแล้วดร.ซุนก็ทิ้งซ่งชิงหลินให้อยู่เป็นหม้ายตั้งแต่เธออายุเพียง 30 เศษๆ และซ่งชิงหลินก็ยังคงแสดงความเด็ดเดี่ยวสืบสานอุดมการณ์ดร.ซุนจวบจนกระทั่งเสียชีวิตในวัย 88 ปี ซ่งเหม่ยหลิง-มุกงามสกุลซ่งผู้มีอำนาจมากที่สุด เธอคือภริยาของประธานาธิบดีแห่งไต้หวัน ผู้อยู่ในอำนาจนานถึง 47 ปี ด้วยฐานะทางครอบครัว พื้นฐานการศึกษา รูปร่างหน้าตา ความรู้ความสามารถ ใครบ้างที่กล้าปฏิเสธว่าซ่งเหม่ยหลินไม่เก่งกว่าเจียงไคเช็ก หลายคนยอมรับว่า ซ่งเหม่ยหลิงคือผู้กุมอำนาจแท้จริงในพรรคก๊กมินตั๋ง และแม้แต่ผู้นำสหรัฐอเมริกาก็ยังต้องฟังเสียงของเธอ การที่เกาะเล็กๆ อย่างไต้หวันสามารถอยู่รอดปลอดภัยจากการยึดครองของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีน และเจริญรุ่งเรืองจนกระทั่งเป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว ย่อมแยกไม่ออกจากคุณูปการของซ่งเหม่ยหลิง กับคนสกุลซ่ง