จำนวนชิ้น | ส่วนลดต่อชิ้น | ราคาสุทธิต่อชิ้น |
{{(typeof focus_pdata.price_list[idx+1] == 'undefined')?('≥ '+price_row.min_quantity):((price_row.min_quantity < (focus_pdata.price_list[idx+1].min_quantity - 1))?(price_row.min_quantity+' - '+(focus_pdata.price_list[idx+1].min_quantity - 1)):price_row.min_quantity)}} | {{number_format(((focus_pdata.price_old === null)?focus_pdata.price:focus_pdata.price_old) - price_row.price,2)}} บาท | {{number_format(price_row.price,2)}} บาท |
คงเหลือ | 0 ชิ้น |
จำนวน (ชิ้น) |
- +
|
ซื้อเลย หยิบลงตะกร้า ซื้อเลย หยิบลงตะกร้า คุณมีสินค้าชิ้นนี้ในตะกร้า 0 ชิ้น
|
|
|
|
คุยกับร้านค้า |
|
{{ size_chart_name }} |
|
หมวดหมู่ | สังคม ประวัติศาสตร์ |
สภาพ | สินค้าใหม่ |
เพิ่มเติม | |
สภาพ | สินค้ามือสอง |
เกรด | |
สถานะสินค้า | |
ระยะเวลาจัดเตรียมสินค้า | |
เข้าร่วมโปรโมชั่น | |
ข้อมูล |
น้ำหนัก
บาร์โค้ด
ลงสินค้า
อัพเดทล่าสุด
|
รายละเอียดสินค้า |
หนังสือบ้านมือสองสภาพโดยรวม 85 เปอ
✨ จัดส่งหนังสือทุกวัน ยกเว้นวันอาทิตย์ ✨ ภาพสินค้าถ่ายจากเล่มจริง สินค้ามีสต็อคพร้อมส่งทุกรายการ หนังสือ ประชาธิปไตยที่มีกษัตริย์อยู่เหนือการเมือง รวมบทความว่าด้วยประวัติศาสตร์การเมืองไทยสมัยใหม่ของธงชัย วินิจจะกูล ที่เขียนขึ้นระหว่างปี 2547-2555 ในฐานะนักประวัติศาสตร์ ธงชัยได้คลี่ให้เห็นเค้าโครงประวัติศาสตร์ประชาธิปไตยไทยแบบเป็นกระแสซ้อนกัน โดยดูจากประวัติศาสตร์ในช่วงยาว ซึ่งเริ่มจากการสร้างรัฐสมบูรณาญาสิทธิราชย์ในสมัยรัชกาลที่ 5 มาจนถึงประชาธิปไตยแบบอำมาตย์ ท่ามกลางวิกฤตการเมืองเหลือง-แดงที่ยังดำเนินอยู่ในปัจจุบัน ในสายธารประวัติศาสตร์การต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยอันยาวนาน ธงชัยวิเคราะห์ ให้เราเห็นการต่อสู้ต่อรองของผู้เล่นมากหน้าหลายตา ทั้งการปะทะกันระหว่างสถาบันกษัตริย์และฝ่ายนิยมเจ้า กับคณะราษฎรและผู้เอาใจช่วยระบอบใหม่ที่มีจุดยืนร่วมกันว่า “อำนาจสูงสุดนั้นเป็นของราษฎรทั้งหลาย” เพื่อกำหนดสถานะและอำนาจของสถาบันกษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ การปะทะกันระหว่างกองทัพกับฝ่ายเสรีนิยมที่จบลงด้วยชัยชนะอย่างไม่กระโตกกระตากของสถาบันกษัตริย์ รวมถึงความขัดแย้งระหว่างนักการเมืองและกลุ่มทุนกับขบวนการพลเมืองซึ่งหันไปเป็นพันธมิตรกับฝ่ายนิยมเจ้า ทั้งนี้ทั้งนั้น ผู้เล่นที่ธงชัยวิเคราะห์แจกแจงบทบาทไว้อย่างละเอียดและลุ่มลึกที่สุดก็คือ สถาบันกษัตริย์ที่คนส่วนใหญ่มองว่ามีสถานะ “เหนือการเมือง” กล่าวได้ว่า การวิเคราะห์วิพากษ์บทบาทสถาบันกษัตริย์ของธงชัยเป็นเสียงเตือนที่มาก่อนกาล ดังจะเห็นได้จากภาค 1 “ประชาธิปไตยแบบไทย” ซึ่งทั้งหมดเขียนขึ้นก่อนรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 ธงชัยชี้ให้เห็นว่า สถานะเหนือการเมืองของสถาบันกษัตริย์เป็นส่วนหนึ่งในระบบการเมืองไทย และกำลังได้รับความเชื่อถือสูงยิ่งขึ้น เมื่อความไว้วางใจต่อรัฐสภาลดต่ำลง ธงชัยเตือนหนักๆ ตั้งแต่ตอนนั้นแล้วว่า ความพยายามต่อสู้กับรัฐบาลบ้าอำนาจด้วยวาทกรรมพระราชอำนาจเป็นเรื่องที่อันตรายอย่างยิ่ง และยังแนะด้วยว่า จะข้ามให้พ้นประชาธิปไตยแบบหลัง 14 ตุลาที่สถาบันกษัตริย์ได้ขึ้นมามีบทบาทนำมากขึ้นนั้น ต้องมองให้ออกว่าประชาธิปไตยไทยเป็นระบบการเมืองแบบสามเส้า ได้แก่ มวลชน ทุนกับนักการเมือง และฝ่ายกษัตริย์นิยม โดยมีสถาบันกษัตริย์อยู่เหนือระบบการเมืองที่มาจากการเลือกตั้ง เมื่อเกิดรัฐประหาร 2549 ของฝ่ายเจ้าขึ้นจริงตามคาด ในภาค 2 “รัฐประหาร” นอกจากสถาบันกษัตริย์และฝ่ายนิยมเจ้าซึ่งถูกธงชัยวิพากษ์แล้ว บรรดาปัญญาชนทั้งหลายที่ทำตัวเป็นอภิชน pragmatists ให้การรับรองความชอบธรรมในการรัฐประหาร ก็เป็นอีกหนึ่งเป้าหมายหลักในการวิพากษ์ด้วยเช่นกัน ในส่วนนี้นอกจากบทความที่ “วิวาทะ” กับผู้สนับสนุนรัฐประหารแล้ว ในบทความ “ล้มประชาธิปไตย” ธงชัยได้ “ถอยออกมาหนึ่งก้าว” เพื่อชี้ให้เห็นบริบททางประวัติศาสตร์ของการต่อสู้เพื่อเป็นประชาธิปไตย (Democratization) โดยแจกแจงวาทกรรมเชิงยุทธศาสตร์ของฝ่ายเจ้าที่ปูทางมาสู่การรัฐประหารครั้งนี้ ด้วยการชี้ให้เห็นการกลับมาของสถาบันกษัตริย์ในการเมืองไทย การปรับตัวจนกลายมาเป็นสถาบันกษัตริย์ยุคใหม่ และการเกิดขึ้นของลัทธิกษัตริย์นิยมที่เป็น “ประชาธิปไตย” พร้อมกับวิเคราะห์ให้เห็นด้านกลับของวาทกรรมทำการเมืองให้สะอาดของ “ภาคประชาชน” ที่เกื้อหนุนให้เกิดการรัฐประหารอีกด้วย ขณะที่ภาค 3 “สังหารหมู่” ไม่แปลกที่จะมีลักษณะอัตวิสัย (subjective) ค่อนข้างสูง เพราะธงชัยเขียนในฐานะผู้รอดชีวิตจากการสังหารหมู่ 6 ตุลา และถูกกล่าวหาว่าจงใจให้เกิดความรุนแรงในเหตุการณ์ครั้งนั้นเพื่อก่อให้เกิดภาวะ “ตายสิบเกิดแสน” บทความแรกเป็นการวิเคราะห์ปฏิกิริยาของชนชั้นกลางชาวกรุงต่อเหตุการณ์คนเสื้อแดงบุกโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ซึ่งมีฐานมาจากการครุ่นคิดเรื่องความแตกต่างระหว่างเมืองกับชนบทมาเป็นเวลาหลายปี ขณะที่บทความหลังเป็นความพยายามทำความเข้าใจโศกนาฏกรรมสังหารหมู่คนเสื้อแดงตรงราชประสงค์และกระบวนการปรับแปลงลงเป็นประวัติศาสตร์หลังจากนั้น โดยมองผ่านหนังและวรรณกรรม กล่าวได้ว่า จากประสบการณ์ส่วนตัวทำให้ธงชัย “เข้าใจ” แกนนำเสื้อแดงในฐานะ “มนุษย์” คนหนึ่ง ในสภาวะปลายรัชกาลที่วิกฤตอันจะเกิดขึ้นจากการสืบราชสมบัติเป็นสิ่งที่ไม่อาจปฏิเสธได้อีกต่อไป ภาค 4 “เปลี่ยน (ไม่) ผ่าน” ซึ่งประกอบด้วยบทความ 3 ชิ้น ที่ย้อนกลับไปวิเคราะห์ถึงการสร้างรัฐสมบูรณาญาสิทธิราชย์ของสยามโดยมีประวัติศาสตร์แบบราชาชาตินิยมเป็นแกนหลัก มาจนถึงสภาวะที่เกิดการเผชิญหน้ากันระหว่าง “สถาบันกษัตริย์กับฝ่ายต่อต้านเครือข่ายกษัตริย์” ในปัจจุบัน ชัดอยู่แล้วว่าบทความ ดังกล่าวกำลังสื่อสารอะไรกับสังคมไทยและโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสถาบันกษัตริย์และฝ่ายกษัตริย์นิยม ฉะนั้น อย่าปล่อยให้ “น้อยเกินไปสายเกินการณ์” เรียนรู้บทเรียนจากประวัติศาสตร์บ้าง น่าจะเป็นทางเลือกที่ช่วยให้เจ็บปวดน้อยกว่าในท้ายที่สุด ในฐานะผู้จัดพิมพ์หนังสือเล่มนี้ เรา -ฟ้าเดียวกัน- หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ด้วยวิธีวิทยาแบบประวัติศาสตร์หลากกระแสหลายมิติที่ธงชัย วินิจจะกูล ได้แสดงให้เห็น ในหนังสือเล่มนี้จะทำให้เราพึงตระหนักว่า การต่อสู้เพื่อเป็นประชาธิปไตยนั้น ต้องถือว่าประชาธิปไตยมิใช่เพียงแค่เครื่องมือ (tool) แต่คือวิถีทาง (means) ที่เป็นจุดหมาย (end) และการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยมิใช่เป็นการต่อสู้ครั้งสุดท้ายหรือม้วนเดียวจบแบบที่พูดๆ กัน แต่เป็นการถกเถียง วิพากษ์วิจารณ์ เป็นวิถีทางที่ไม่สิ้นสุด และไม่เคยสมบูรณ์ ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
เงื่อนไขอื่นๆ |
|
Tags |