ข้อมูล
น้ำหนัก
บาร์โค้ด
ลงสินค้า
อัพเดทล่าสุด
รายละเอียดสินค้า
หนังสือบ้านมือสองสภาพโดยรวม 85 เปอ

✨ จัดส่งหนังสือทุกวัน ยกเว้นวันอาทิตย์

✨ ภาพสินค้าถ่ายจากเล่มจริง สินค้ามีสต็อคพร้อมส่งทุกรายการ

หนังสือ ประชาธิปไตยที่มีกษัตริย์อยู่เหนือการเมือง รวมบทความว่าด้วยประวัติศาสตร์การเมืองไทยสมัยใหม่ของธงชัย วินิจจะกูล ที่เขียนขึ้นระหว่างปี 2547-2555 ในฐานะนักประวัติศาสตร์ ธงชัยได้คลี่ให้เห็นเค้าโครงประวัติศาสตร์ประชาธิปไตยไทยแบบเป็นกระแสซ้อนกัน โดยดูจากประวัติศาสตร์ในช่วงยาว ซึ่งเริ่มจากการสร้างรัฐสมบูรณาญาสิทธิราชย์ในสมัยรัชกาลที่ 5 มาจนถึงประชาธิปไตยแบบอำมาตย์ ท่ามกลางวิกฤตการเมืองเหลือง-แดงที่ยังดำเนินอยู่ในปัจจุบัน
ในสายธารประวัติศาสตร์การต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยอันยาวนาน ธงชัยวิเคราะห์ ให้เราเห็นการต่อสู้ต่อรองของผู้เล่นมากหน้าหลายตา ทั้งการปะทะกันระหว่างสถาบันกษัตริย์และฝ่ายนิยมเจ้า กับคณะราษฎรและผู้เอาใจช่วยระบอบใหม่ที่มีจุดยืนร่วมกันว่า “อำนาจสูงสุดนั้นเป็นของราษฎรทั้งหลาย” เพื่อกำหนดสถานะและอำนาจของสถาบันกษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญ การปะทะกันระหว่างกองทัพกับฝ่ายเสรีนิยมที่จบลงด้วยชัยชนะอย่างไม่กระโตกกระตากของสถาบันกษัตริย์ รวมถึงความขัดแย้งระหว่างนักการเมืองและกลุ่มทุนกับขบวนการพลเมืองซึ่งหันไปเป็นพันธมิตรกับฝ่ายนิยมเจ้า ทั้งนี้ทั้งนั้น ผู้เล่นที่ธงชัยวิเคราะห์แจกแจงบทบาทไว้อย่างละเอียดและลุ่มลึกที่สุดก็คือ สถาบันกษัตริย์ที่คนส่วนใหญ่มองว่ามีสถานะ “เหนือการเมือง”
กล่าวได้ว่า การวิเคราะห์วิพากษ์บทบาทสถาบันกษัตริย์ของธงชัยเป็นเสียงเตือนที่มาก่อนกาล ดังจะเห็นได้จากภาค 1 “ประชาธิปไตยแบบไทย” ซึ่งทั้งหมดเขียนขึ้นก่อนรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 ธงชัยชี้ให้เห็นว่า สถานะเหนือการเมืองของสถาบันกษัตริย์เป็นส่วนหนึ่งในระบบการเมืองไทย และกำลังได้รับความเชื่อถือสูงยิ่งขึ้น เมื่อความไว้วางใจต่อรัฐสภาลดต่ำลง
ธงชัยเตือนหนักๆ ตั้งแต่ตอนนั้นแล้วว่า ความพยายามต่อสู้กับรัฐบาลบ้าอำนาจด้วยวาทกรรมพระราชอำนาจเป็นเรื่องที่อันตรายอย่างยิ่ง และยังแนะด้วยว่า จะข้ามให้พ้นประชาธิปไตยแบบหลัง 14 ตุลาที่สถาบันกษัตริย์ได้ขึ้นมามีบทบาทนำมากขึ้นนั้น ต้องมองให้ออกว่าประชาธิปไตยไทยเป็นระบบการเมืองแบบสามเส้า ได้แก่ มวลชน ทุนกับนักการเมือง และฝ่ายกษัตริย์นิยม โดยมีสถาบันกษัตริย์อยู่เหนือระบบการเมืองที่มาจากการเลือกตั้ง
เมื่อเกิดรัฐประหาร 2549 ของฝ่ายเจ้าขึ้นจริงตามคาด ในภาค 2 “รัฐประหาร” นอกจากสถาบันกษัตริย์และฝ่ายนิยมเจ้าซึ่งถูกธงชัยวิพากษ์แล้ว บรรดาปัญญาชนทั้งหลายที่ทำตัวเป็นอภิชน pragmatists ให้การรับรองความชอบธรรมในการรัฐประหาร ก็เป็นอีกหนึ่งเป้าหมายหลักในการวิพากษ์ด้วยเช่นกัน ในส่วนนี้นอกจากบทความที่ “วิวาทะ” กับผู้สนับสนุนรัฐประหารแล้ว ในบทความ “ล้มประชาธิปไตย” ธงชัยได้ “ถอยออกมาหนึ่งก้าว” เพื่อชี้ให้เห็นบริบททางประวัติศาสตร์ของการต่อสู้เพื่อเป็นประชาธิปไตย (Democratization) โดยแจกแจงวาทกรรมเชิงยุทธศาสตร์ของฝ่ายเจ้าที่ปูทางมาสู่การรัฐประหารครั้งนี้ ด้วยการชี้ให้เห็นการกลับมาของสถาบันกษัตริย์ในการเมืองไทย การปรับตัวจนกลายมาเป็นสถาบันกษัตริย์ยุคใหม่ และการเกิดขึ้นของลัทธิกษัตริย์นิยมที่เป็น “ประชาธิปไตย” พร้อมกับวิเคราะห์ให้เห็นด้านกลับของวาทกรรมทำการเมืองให้สะอาดของ “ภาคประชาชน” ที่เกื้อหนุนให้เกิดการรัฐประหารอีกด้วย
ขณะที่ภาค 3 “สังหารหมู่” ไม่แปลกที่จะมีลักษณะอัตวิสัย (subjective) ค่อนข้างสูง เพราะธงชัยเขียนในฐานะผู้รอดชีวิตจากการสังหารหมู่ 6 ตุลา และถูกกล่าวหาว่าจงใจให้เกิดความรุนแรงในเหตุการณ์ครั้งนั้นเพื่อก่อให้เกิดภาวะ “ตายสิบเกิดแสน” บทความแรกเป็นการวิเคราะห์ปฏิกิริยาของชนชั้นกลางชาวกรุงต่อเหตุการณ์คนเสื้อแดงบุกโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ซึ่งมีฐานมาจากการครุ่นคิดเรื่องความแตกต่างระหว่างเมืองกับชนบทมาเป็นเวลาหลายปี ขณะที่บทความหลังเป็นความพยายามทำความเข้าใจโศกนาฏกรรมสังหารหมู่คนเสื้อแดงตรงราชประสงค์และกระบวนการปรับแปลงลงเป็นประวัติศาสตร์หลังจากนั้น โดยมองผ่านหนังและวรรณกรรม กล่าวได้ว่า จากประสบการณ์ส่วนตัวทำให้ธงชัย “เข้าใจ” แกนนำเสื้อแดงในฐานะ “มนุษย์” คนหนึ่ง
ในสภาวะปลายรัชกาลที่วิกฤตอันจะเกิดขึ้นจากการสืบราชสมบัติเป็นสิ่งที่ไม่อาจปฏิเสธได้อีกต่อไป ภาค 4 “เปลี่ยน (ไม่) ผ่าน” ซึ่งประกอบด้วยบทความ 3 ชิ้น ที่ย้อนกลับไปวิเคราะห์ถึงการสร้างรัฐสมบูรณาญาสิทธิราชย์ของสยามโดยมีประวัติศาสตร์แบบราชาชาตินิยมเป็นแกนหลัก มาจนถึงสภาวะที่เกิดการเผชิญหน้ากันระหว่าง “สถาบันกษัตริย์กับฝ่ายต่อต้านเครือข่ายกษัตริย์” ในปัจจุบัน ชัดอยู่แล้วว่าบทความ ดังกล่าวกำลังสื่อสารอะไรกับสังคมไทยและโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสถาบันกษัตริย์และฝ่ายกษัตริย์นิยม ฉะนั้น อย่าปล่อยให้ “น้อยเกินไปสายเกินการณ์” เรียนรู้บทเรียนจากประวัติศาสตร์บ้าง น่าจะเป็นทางเลือกที่ช่วยให้เจ็บปวดน้อยกว่าในท้ายที่สุด
ในฐานะผู้จัดพิมพ์หนังสือเล่มนี้ เรา -ฟ้าเดียวกัน- หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ด้วยวิธีวิทยาแบบประวัติศาสตร์หลากกระแสหลายมิติที่ธงชัย วินิจจะกูล ได้แสดงให้เห็น ในหนังสือเล่มนี้จะทำให้เราพึงตระหนักว่า การต่อสู้เพื่อเป็นประชาธิปไตยนั้น ต้องถือว่าประชาธิปไตยมิใช่เพียงแค่เครื่องมือ (tool) แต่คือวิถีทาง (means) ที่เป็นจุดหมาย (end) และการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยมิใช่เป็นการต่อสู้ครั้งสุดท้ายหรือม้วนเดียวจบแบบที่พูดๆ กัน แต่เป็นการถกเถียง วิพากษ์วิจารณ์ เป็นวิถีทางที่ไม่สิ้นสุด และไม่เคยสมบูรณ์
ประชาธิปไตยที่มีกษัตริย์อยู่เหนือการเมือง ...ธงชัย วินิจจะกูล (มือสอง) หนังสือการเมือง
ประชาธิปไตยที่มีกษัตริย์อยู่เหนือการเมือง ...ธงชัย วินิจจะกูล (มือสอง) หนังสือการเมือง
ประชาธิปไตยที่มีกษัตริย์อยู่เหนือการเมือง ...ธงชัย วินิจจะกูล (มือสอง) หนังสือการเมือง
ประชาธิปไตยที่มีกษัตริย์อยู่เหนือการเมือง ...ธงชัย วินิจจะกูล (มือสอง) หนังสือการเมือง
ประชาธิปไตยที่มีกษัตริย์อยู่เหนือการเมือง ...ธงชัย วินิจจะกูล (มือสอง) หนังสือการเมือง
ประชาธิปไตยที่มีกษัตริย์อยู่เหนือการเมือง ...ธงชัย วินิจจะกูล (มือสอง) หนังสือการเมือง
เงื่อนไขอื่นๆ
Tags

วิธีการชำระเงิน

ร้านค้านี้ยังไม่ได้กำหนดวิธีการชำระเงิน กรุณา ติดต่อกับทางร้าน เกี่ยวกับรายละเอียดในการชำระเงิน
ทางร้านยังไม่ได้ทำการเพิ่มบัญชีรับเงิน กรุณาติดต่อ เจ้าของร้าน
รายการสั่งซื้อของฉัน
เข้าสู่ระบบด้วย
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก

ยังไม่มีบัญชีเทพ สร้างบัญชีใหม่ ไม่มีค่าใช้จ่าย
สมัครสมาชิก (ฟรี)
รายการสั่งซื้อของฉัน
ข้อมูลร้านค้านี้
ร้านNateebooks ร้านหนังสือมือสองคัดสภาพ นิยายแปล การเงิน
Nateebooks ร้านหนังสือมือสองคัดสภาพ นิยายแปล การเงิน
Nateebooks ขายหนังสือมือสอง นิยายแปล พัฒนาตนเอง ประวัติศาสตร์ การเงิน คัดสภาพ จัดส่งถึงบ้าน
เบอร์โทร :
อีเมล : nateebooks@gmail.com
ส่งข้อความติดต่อร้าน
เกี่ยวกับร้านค้านี้
สินค้าที่ดูล่าสุด
ดูสินค้าทั้งหมดในร้าน
สินค้าที่ดูล่าสุด
บันทึกเป็นร้านโปรด
Join เป็นสมาชิกร้าน
แชร์หน้านี้
แชร์หน้านี้

TOP เลื่อนขึ้นบนสุด
พูดคุย-สอบถาม